การทำเด็กหลอดแก้ว / การปฏิสนธินอกร่างกาย (อิ๊กซี่)

บริการทำเด็กหลอดแก้วและอิ๊กซี่ในกรุงเทพฯ ในราคาที่เอื้อมถึง

การทำเด็กหลอดแก้ว: IVF [In Vitro Fertilization]

เทคนิคช่วยการเจริญพันธุ์ (ART) โดยไข่และอสุจิจะถูกเก็บออกนอกร่างกายเพื่อปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ

อิ๊กซี่: ICSI [Intracytoplasmic Sperm Injection]

​​กระบวนการที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้แตกต่างจากการทำเด็กหลอดแก้วมากนัก ทั้งการสแกน การตรวจเลือดและการกระตุ้นรังไข่ อย่างไรก็ตาม เทคนิคที่ใช้นั้นไม่ได้เหมือนกันทีเดียวทุกประการ

สำหรับการทำเด็กหลอดแก้วไข่และอสุจิจะปฏิสนธิด้วยกันเอง โดยเสปิร์มจะเคลื่นตัวไปที่ไข่และฟักออกมาเอง ซึ่งแตกต่างจากการทำอิ๊กซี่ ในกรณีของอิ๊กซี่สเปิร์มตัวเดียวจะถูกฉีดโดยตรงไปยังไข่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเอ็มบริโอ ดังนั้น อัตราการปฏิสนธิจะสูงกว่าอย่างแน่นอนและยังช่วยให้แม้แต่ตัวอสุจิที่มีการเคลื่อนไหวต่ำสามารถปฏิสนธิกับไข่ได้

ทำเด็กหลอดแก้วกับอิ๊กซี่ อันไหนดีกว่ากัน?

ในกรณีภาวะมีบุตรยากเกิดจากฝ่ายชาย เช่น ปริมาณอสุจิต่ำ หรือการเคลื่อนไหวของอสุจิต่ำ อิ๊กซี่นั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามแม้แต่กับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของอสุจิ ก็อาจใช้การทำอิ๊กซี่ได้ เพราะมีอัตราการปฏิสนธิที่สูงกว่า เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านเอ็มบริโอช่วยฉีดอสุจิเข้าไปในไข่ อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยค่าใช้จ่ายจะเท่ากับการทำเด็กหลอดแก้ว แล้วทำไมเราไม่เลือกทำอิ๊กซี่เลยล่ะ

ใครที่เหมาะกับการทำอิ๊กซี่? 

โดยทั่วไปแล้ว อิ๊กซี่จะถูกแนะนำให้กับคู่สมรสที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของอสุจิ ดังนี้;

–ปริมาณอสุจิต่ำ 

– อสุจิมีรูปร่างผิดปกติ

– ตรวจไม่พบตัวอสุจิในน้ำอสุจิ

– เคยทำหมันหรือแก้หมันแล้วล้มเหลว

– ผู้ป่วยทุกรายที่ต้องเก็บอสุจิโดยการผ่าตัด (TESE หรือ PESA)

นอกจากนี้ อิ๊กซี่ยังถูกพิจารณาใช้ในกรณี ดังต่อไปนี้; 

– ผู้ป่วยที่ต้องการคัดกรองโครโมโซมที่ตัวอ่อน

– อัตราการปฏิสนธิต่ำหรือเคยล้มเหลวในการทำ IVF

– ภาวะมีบุตรยากที่ไม่สามารถอธิบายได้

 

วิธีแก้ปัญหาเมื่อทำ IVF/ICSI ไม่สำเร็จหลายครั้ง

ผลของการทำเด็กหลอดแก้ว/อิ๊กซี่ นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพของมดลูก คุณภาพของตัวอ่อน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แพทย์มักจะแนะนำให้ทำการส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก นอกจากนี้ อาจแนะนำให้ใช้อาหารเสริมบางชนิดสำหรับอสุจิและไข่ที่ไม่แข็งแรง

หลังจากได้พยายามใช้วิธีเหล่านี้แล้ว แต่สภาพของมดลูกและคุณภาพของไข่/อสุจิ ยังไม่ดีขึ้น ทางออกต่อไปก็คือ: 

– การอุ้มบุญ: หากฝ่ายหญิงไม่สามารถอุ้มทารกในครรภ์ได้ เนื่องจากภาวะมดลูกไม่ดีหรือมีปัญหาสุขภาพ

– รับบริจาคไข่: หากฝ่ายหญิงไม่สามารถผลิตไข่ที่แข็งแรงได้

– รับบริจาคอสุจิ: หากไม่สามารถเก็บเชื้ออสุจิโดยตรงจากอัณฑะด้วยการทำ TESE หรือ PESA ได้

วิธีการทำเด็กหลอดแก้วที่ดีต้องประกอบด้วย:

  • ประวัติทางการแพทย์โดยละเอียดของผู้ป่วยและการซักถามประวัติก่อนการรักษา
  • เตรียมความพร้อมทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคุณภาพของเซลล์สืบพันธุ์ (ไข่และตัวอสุจิ)
  • กระตุ้นให้ฝ่ายหญิงผลิตฟอลลิเคิลมากขึ้นเพื่อเก็บไข่จากรังไข่
  • ผสมเทียมของไข่ด้วยอสุจิที่ได้จัดเตรียมและคัดแยกโดยเฉพาะ (ICSI)
  • เพาะเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะบลาสโตซิสต์
  • ย้ายตัวอ่อนที่มีความสามารถในการเติบโตเข้าสู่มดลูกของฝ่ายหญิง 
  • แช่แข็งตัวอ่อนที่มีความสามารถในการเติบโตทั้งหมด
  • การตรวจวินิจฉัยตัวอ่อน – เพื่อชี้บอก – ความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน

เฟิร์ส เฟอร์ทิลิตี้ เซ็นเตอร์ กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

กระบวนการที่เกี่ยวข้องนี้รวมไปถึงการดึงใข่มากกว่าหนึ่งใบออกจากรังไข่ของฝ่ายหญิงเพื่อปฏิสนธิกับอสุจิที่ได้รับการคัดเลือกมาโดยเฉพาะว่ามีประสิทธิภาพสูง ที่ เฟิร์ส เฟอร์ทิลิตี้ เซ็นเตอร์ เราใช้ห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อในการดำเนินการเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบคทีเรียแปลกปลอมเข้ามาสัมผัสกับไข่ได้

ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วสมัยใหม่ แพทย์สามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จให้แก่คู่สมรสหรือผู้เข้ารับบริการรายบุคคลได้ นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการทำเด็กหลอดแก้วยังช่วยให้เราสามารถบอกเพศของตัวอ่อนเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ และหลีกเลี่ยงปัญหาอื่น ๆ เช่น ความเสี่ยงที่จะเกิดดาวน์ซินโดรม

เมื่อเราได้ตัวอ่อนจากการคัดกรองเป็นพิเศษและพบว่ามีอัตราความสำเร็จดีที่สุด ก็จะย้ายตัวอ่อนไปยังมดลูกของฝ่ายหญิงเพื่อให้ตัวอ่อนได้เติบโตพัฒนาเป็นทารกที่แข็งแรงต่อไป

กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง สำหรับศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากที่พร้อมด้วยประสบการณ์และอุปกรณ์การรักษาที่ครบครันที่สุดในเอเชีย ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าได้ช่วยคู่สมรสหลายพันคนสานฝันให้เป็นจริง ที่จะมีลูกเป็นของตัวเองได้